การทอผ้าไหมยกดอกซึ่งถือว่าเป้นผ้าที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ มีลวดลายดั้งเดิม เพียงลวลายเดียวคือ ลายดอกพิกุลหรือดอกแก้ว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกไม้
เอกลักษณ์เฉพาะ ผ้าไหมยกดอกลำพูนคือผ้าทอยกดอกที่ยกลวดลายให้สูงกว่าผืนผ้า คำว่า “ยก” มาจากลักษณะการทอเส้นไหมที่เชิดขึ้น เรียกว่ายก และเส้นไหมที่จมลงเรียกว่า “ข่ม” แล้วพุ่งกระสวยไปในระหว่างกลางโดยเลือกยกบางเส้นข่มบางเส้นเพื่อให้เกิดลวดลาย โดยผ้ายกลำพูนจะเป็นผ้ายกที่ใช้เส้นไหมเพิ่มพิเศษทอยกให้เกิดลวดลาย ซึ่งแยกกับการทอโครงสร้างผ้าที่เป็นการทอด้วยลวดลายขัด 2 ตะกอ และในปัจจุบันมีการใช้ดิ้นทองดิ้นเงินมาทอยกเป็นเส้นเพิ่มพิเศษให้เกิดลวดลายที่สวยลามเพิ่มขึ้น ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดลำพูนที่เป็นลวดลายดอกไม้ เช่น ลายดอกพิกุล ดังนั้นจึงเรียกว่า ผ้าไหมยกดอก ลำพูน
1. วิธีการทอแบบใส่เกสร คือ ใช้กระสวย 3 อันคือ กระสวยไหมดอก กระสวยเกสรและกระสวยพื้น การทอเริ่มจากขั้นตอนทีี่ 1-21 เสร็จแล้วย้อนกลับมาขั้นตอนที่ 19-1 เมื่อทอครบ ให้เริ่มขั้นตอนที่ 3-21 ทอกลับไป-มา จนแล้วเสร็จ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ภาพที่ 1)
2. วิธีการทอแบบไม่ใส่เกสร (กรณีเก็บตะกอดอกเกสรลงไปแต่จะไม่ใช้เกสร) คือ ใช้กระสวย 2 อันคือ กระสวยไหมดอกและกระสวยพื้น การทอเริ่มจากขั้นตอนทีี่ 1-17 เสร็จแล้วย้อนกลับมาขั้นตอนที่ 16-1 เมื่อทอครบ ให้เริ่มขั้นตอนที่ 2-17 ทอกลับไป-มา จนแล้วเสร็จ (การไม่เก็บเขาซ้ำอันแรกกับอันสุดท้าย เนื่องจากตะกอดอกที่คัดลายไว้มีเพียงครึ่งหนึ่งของลาย ดังนั้นเมื่อทอกลับไป-มา จึงทำให้ลายมาประกับกันจนเต็ม) ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ภาพที่ 2)